วันอาทิตย์ที่ 17 กรกฎาคม พ.ศ. 2565

Web Application สำหรับการปรับเปลี่ยนหลักฐานและกรอบพิกัดอ้างอิง

ในการประชุมคณะอนุกรรมการบริหารจัดการโครงสร้างพื้นฐานระบบดาวเทียมนำทาง (GNSS) ของประเทศครั้งที่ ๑/๒๕๖๔

เนื้อหาสำคัญที่ขอยกมากล่าว ... นาย... (อนุกรรมการและเลขานุการ) แจ้งให้ที่ประชุมทราบว่า การใช้ ITRF ๒๐๑๔ ถือเป็นโอกาสอันดีที่จะเปลี่ยนแปลงกรอบอ้างอิงค่าพิกัดของประเทศไทย เพื่อให้หน่วยงานใช้ระบบเดียวกันทั้งประเทศ เพื่อแก้ไขปัญหาการเป็นเอกภาพของค่าพิกัดในอดีตที่ผ่านมา และเห็นควรให้จัดสัมมนาแบบออนไลน์ เพื่อส่งเสริม ประชาสัมพันธ์การนำกรอบอ้างอิง ITRF ๒๐๑๔ และเวลามาตรฐาน UTC (NIMT) มาใช้ในการ- อ้างอิงค่าพิกัดของประเทศไทย รวมทั้งต้องเร่งดำเนินการพัฒนา Application สำหรับการปรับเปลี่ยนหลักฐานและกรอบพิกัดอ้างอิงเป็น ITRF ๒๐๑๔ เพื่อเตรียมความพร้อมสำหรับการใช้งาน อย่างเป็นทางการ โดยกิจกรรมที่กล่าวถึงต้องขอความร่วมมือจากหน่วยงานที่มีสถานี CORS และองค์ความรู้ของผู้เชี่ยวชาญด้าน GNSS เป็นหลักในการดำเนินงานในครั้งนี้ ... มติที่ประชุม มติที่ประชุม ๖๑/๘ : ๑. เห็นชอบให้ศูนย์ข้อมูลค่าอ้างอิงพิกัดแบบต่อเนื่องแห่งชาติ ใช้กรอบอ้างอิง ITRF ๒๐๑๔ เป็นกรอบอ้างอิง ค่าพิกัดของประเทศไทย และมาตรเวลา UTC (NIMT) สำหรับการอ้างอิงค่าเวลาของประเทศไทย ๒. มอบหมายให้ ฝ่ายเลขานุการฯ จัดสัมมนา เพื่อส่งเสริม ประชาสัมพันธ์การนำกรอบอ้างอิง ITRF ๒๐๑๔ และเวลามาตรฐาน UTC (NIMT) มาใช้ในการอ้างอิงค่าพิกัดของประเทศไทย ๓. มอบหมายให้ ฝ่ายเลขานุการฯ ประสานหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง (กรมที่ดิน กรมโยธาธิการและผังเมือง สถาบันมาตรวิทยาแห่งชาติ สถาบันสารสนเทศทรัพยากรน้ำ กรมแผนที่ทหาร และ สทอภ.) เตรียมความพร้อม ในการประกาศใช้กรอบอ้างอิง ITRF ๒๐๑๔ เป็นกรอบอ้างอิงค่าพิกัดที่เป็นเอกภาพของประเทศไทยต่อไป ๔. มอบหมายให้หน่วยงานต่างๆ ที่มี CORS ใน NCDC ประสานงานกับสถาบันมาตรวิทยาแห่งชาติ เพื่อดำเนินการให้เกิดระบบและกระบวนการเทียบเวลามาตรฐาน UTC (NIMT) เพื่อการบ่งชี้คุณลักษณะ ด้านเวลา ของนาฬิกาภายในเครื่องรับสัญญาณ GNSS ของ NCDC และการอ้างอิงไปสู่เวลามาตรฐานระหว่างประเทศ Geo-4d Coordinates Transformation Application ที่ผู้เขียนทำและเผยแพร่แล้ว มติของคณะอนุกรรมการดังกล่าวเป็นสิ่งที่ถูกต้องเหมาะสมแล้ว บางเรื่องสามารถดำเนินการได้ทันที ผู้เขียนสงสัยว่าทำไมไม่มอบหมายไปเลยว่าให้หน่วยงานใดเป็นหน่วยงานหลักในการทำ Application สำหรับตัวผู้เขียนได้ตระหนักถึงความสำคัญนี้มานานแล้ว และได้ทำ Web Application สำหรับงานแปลงค่าพิกัดระหว่างกรอบอ้างอิงออกเผยแพร่ในกลุ่มผู้ใกล้ชิดในปี พ.ศ.2564 ผู้เขียนให้ชื่อผลงานนี้ว่า Geo-4d Coordinates Transformation ขีดความสามารถของ Geo-4d Coordinates Transformation (กำหนดชื่อย่อเป็น G4DX) G4DX มีขีดความสามารถดังนี้:-
  1. แปลงค่าพิกัดระหว่างกรอบอ้างอิง
  2. สร้างสคริปต์สำหรับใช้ในการคำนวณหรือตรวจสอบด้วยโปรแกรมอื่น
ตัวอย่างการใช้งาน: การแปลงค่าพิกัดจากกรอบอ้างอิง ITRF2000 ไปยัง ITRF2014 คำอธิบายการคำนวณในรูปข้างล่าง ข้อมูลป้อนเข้า
  1. แปลงค่าพิกัดจากกรอบอ้างอิง ITRF2000 ไปยัง ITRF2014
  2. พิกัดตำแหน่ง ละติจูด = 14°N, ลองจิจูด = 100°E
  3. ความสูงเหนือสัณฐานทรงรีอ้างอิง = 0 m.
  4. Epoch-of-observation = 2004.5 (ขณะเวลากลางปีคศ.2004)
ผลลัพธ์จากการคำนวณ
  1. พิกัดตำแหน่ง ละติจูด = 14.00000014°N, ลองจิจูด = 100.00000000°E
  2. ความสูงเหนือสัณฐานทรงรีอ้างอิง = -0.0065 m.
  3. Epoch-of-observation = 2004.5 (carried on value)
  4. Reference frame = ITRF2014
ข้อสังเกต ค่าของขณะเวลาสังเกตเป็นค่าปีคศ.เติมทศนิยม 1 ตำแหน่ง และไม่มีประโยชน์ที่จะใช้เกินกว่า 1 คำแหน่ง ค่าขณะเวลาสังเกตมีบทบาทสำคัญในการคำนวณหาค่าพารามิเตอร์ในการแปลง 7 ตัวที่ใช้ประกอบในกระบวนวิธี 7-parameter Helmert Transformation ค่าขณะเวลาสังเกตที่ละเอียดเพียง 1 ตำแหน่งเพียงพอแล้วสำหรับใช้งาน อนึ่ง ถ้าค่ามีทศนิยมเป็นศูนย์นิยมเขียนให้มีค่าทศนิยมด้วยอย่างสมบูรณ์ เช่น 2022.0 เกี่ยวกับ G4DX - ทำงานแบบ client-server ทำการประมวลผลที่ server - การทำงานที่เซิร์ฟเวอร์โดยใช้ Python + pyproj module - ประมวลผลได้ครั้งละ 1 จุด ตามข้อจำกัดของ user interface - ผลลัพธ์ที่เป็นข้อความในกรอบ textarea มีเนื้อหาและสคริปต์ที่มีประโยชน์ต่อการศึกษาและใช้งาน - สคริปต์ดังกล่าวสามารถใช้งานได้โดย copy/paste/run นำไปดัดแปลงให้ตรงความต้องการผู้ใช้ได้ง่าย (ตอนต่อไป: การใช้สคริปต์ที่เป็นผลลัพธ์ในการคำนวณหรือตรวจสอบด้วยโปรแกรมอื่น)

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น